ผีมีในโลกหรือไม่

ผีมีในโลกหรือไม่

 

ต้องขออภัยสำหรับคนที่รออ่านเรื่องผีตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เนื่องจากผมติดภารกิจงานหลายอย่าง ก็เลยยังไม่มีเวลาอัพ

ตอนนี้ก็เลยทำโทษตัวเอง

โดยมาพูดเรื่องผีๆ คนเดียวตอนตี 3

 

~ เวร ~

 

ก่อนอื่นต้องขอดูเหตุผลก่อน

ว่าทำไมเราถึงเชื่อเรื่องผี

 

ผี

เป็นรูปลักษณ์หนึ่งของอดีตมนุษย์

ดังนั้นการเชื่อเรื่องผีจึงอาจทำให้รู้สึกอุ่นใจ

ว่ายังมีที่ไปหลังความตาย

 

มีแนวความคิดใหม่ที่อิงหลักวิทยาศาสตร์

โดยบอกถึงกฏการธำรงอยู่ของพลังงาน

(Conservation of Energy)

แล้วจะใส่อังกฤษทำไม

คิดว่าเท่ห์หรือไง.

กระแดะ

 

ต่อๆ

ซึ่งกล่าวว่า พลังไม่สามารถสร้างขึ้นหรือทำลายได้

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีผู้บอกว่า

กระทั่งเมื่อถึงความตาย

พลังงานที่ปลดปล่อยจากร่างของมนุษย์

ก็ไม่สามารถทำลายได้

และยังสามารถดำรงสภาพที่ยึดติดกันได้

โดยไม่มีกำหนดเวลาก่อนที่จะกระจัดกระจายออกจากกัน

 

แม้หลายต่อหลายเหตุผลที่ยกขึ้น

ขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อยู่

แต่มองกลับกัน

วิทยาศาสตร์ก็ยังอธิบายไม่ได้

นักวิทยาศาสตร์บางคน

ลึกๆ อาจจะเชื่ออยู่ในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมา

เพราะเรื่องเหล่านี้

มันสัมผัสด้วยความรู้สึก

มากกว่าตาเห็น

 

ถามว่าผมเชื่อเรื่องผีมีจริงไหม

 

ผมก็จะหัวเราะก๊ากๆ ด้วยความสะใจ

 

แล้วบอกว่า

 

เชื่อ!

 

และผมฟันธงว่ามัน

 

มีอยู่จริง

 

และมีอยู่ทุกหนแห่ง

 

 

หลายคนอาจจะแปลกใจ

ว่าผมซึ่งชอบพูดเรื่องวิทยาศาสตร์อยู่เสมอถึงเชื่อเรื่องผีได้

อย่างแรก ผมรู้การเชื่อเรื่องผี มีคุณประโยชน์มหาศาล

อย่างที่สอง นักวิทยาศาสตร์,นักจิตยา,หมอ พยายามอธิบายปรากฏการณ์

ของการเห็นผีในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการ "พยายาม" อธิบายให้ได้

คำว่า"ให้ได้" ไม่ใช่หมายถึง "อธิบายได้"

แต่เป็นการพยายาม "ให้ได้"

บางครั้งคนเห็นผีเพราะอุปาทานก็มีอยู่จริง

แต่พวกเค้ามักเอามุกอุปาทานมาอธิบายทุกเรื่องซึ่งมันก็ไม่ใช่

ซึ่งพูดตามหลักวิทยาศาสตร์

เป็นแค่สันนิษฐาน แต่ขาดหลักฐานประกอบ

คำของคนพวกนี้จึงตกไป

 

จะให้คนพวกนี้เชื่อ ผมจึงอธิษฐานของให้คนพวกนี้เจอ

เอาแบบเห็นหัวหลุดมาจากขื่อบ้าน

แล้วให้ผีถามว่า "เชื่อกูยัง ไอ้ฉัด"

 

อย่างที่สาม คงจะเชื่อได้ยาก ถ้าผมไม่เคยเห็น!

 

 

คนที่ไม่เชื่อเรื่องผี คือคนที่เชื่อว่าคนเราตายแล้วสูญ

การตายแล้วสูญหมายถึงการไม่มีอยู่อีก

อารมณ์ รู้สึก ความนึกคิดจะหายไป

เราจะกลายเป็นเพียงอากาศที่หายไปกับธรรมชาติ

คนที่ดำเนินชีวิตว่าตายแล้วสูญ

จะมีชีวิตบนความเสี่ยง

เสี่ยงต่อการทำบาป

เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง

เสี่ยงต่อการทำร้ายผู้อื่น

เพราะเค้าเชื่อว่า คนเราเกิดมาแค่ครั้งเดียว

จงทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่ได้ทำ

 

เกือบทุกศาสนาก็สั่งสอนเรื่องชีวิตหลังความตาย

พุทธศาสนาก็บอกถึงการเวียนว่ายตายเกิด

จะหยุดจนกว่าจะหมดกิเลศ

 

คริสต์ ก็พูดถึงพระผู้สร้างวิญญาณ

จะได้อยู่กับพระเจ้า เมื่อเชื่อในพระเจ้า

และปฏิบัติตามที่พระเจ้าสั่งสอน

 

อิสลาม – ไม่ค่อยทราบ แต่รู้มาว่าหากทำดี

วิญญาณก็อยู่สรวงสวรรค์กับพระอัลเลาะห์

 

 

ทุกคนคุกเข่าแล้วว่าตามกัน "ข้าพเจ้า.."

ไม่ใช่!

ไม่ได้อยู่ในวัด

ไปๆ มาๆ เหมือนพระเทศน์

 

พระองค์ไหนบอกว่าผีไม่มีจริง

จงชั่งใจก่อนจะกราบพระองค์นี้

 

ผี!

เป็นผลตกผลึกมาจากหลักธรรม

ที่ว่าด้วยบาปบุญคุณโทษ

ผู้ทำดีได้ไปวิญญาณสวรรค์

ผู้ทำชั่ววิญญาณลงสู่นรก

 

คนเชื่อเรื่องผี จึงกลัวบาปกรรม

 

พระไตรปิฏก,ประวัติพระพุทธองค์ก็กล่าวถึงเรื่องผี

คนบอกไม่มีจริง

ก็บอกให้คนลองไปนอนที่ป่าช้าสักคืน

 

เคยท้าเหมือนกัน

มันบอกไม่ได้กลัวผี

แต่กลัวตุ๊กแก

 

ผมสนับสนุนให้คนเชื่อเรื่องผี

มันจะต่อยอดของการกลัวบาปกรรม

แต่ไม่อยากให้กลัวผี

เพราะผี..

 

…น่าสงสาร

 

นึกถึงตัวเราเมื่อเป็นผีกะเค้าบ้าง

ความรู้สึกนึกคิดมีอยู่เต็มหัวใจ

แต่หิวก็หาอาหารกินไม่ได้

อยากดูทีวี อยากเที่ยว ก็ทำไม่ได้

เรามีแต่วิญญาณ แต่ไม่มีกายเนื้อมาตอบสนองความต้องการ

คิดถึงคนรัก,คิดถึงครอบครัว ไปหาก็ไม่ได้

หรือเห็นแล้วอยากจะพูดเค้าก็ไม่ได้ยิน

อยากจะกอดเค้าก็ทำไม่ได้

อยากจะทำอะไรสักอย่างให้เค้ารู้ว่าเราอยู่ที่นี่

แต่เราทำอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่งร้องไห้

 

สิ่งบอกเล่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัว

การขว้างปาสิ่งของ หรือแสดงมาในรูปลักษณ์อย่างหนึ่งอย่างใด

อาจจะจริงแฝงปนกับอุปาทาน

แต่ให้รู้ว่านั่นคือความพยายามอย่างนึงของความอัดอั้นตันใจ

ที่อยากจะให้เรารับรู้ว่าเค้าอยู่ที่นี่ อยากจะสื่อสารกับเรา

 

เค้าไม่ได้ต่างจากเราเลย

 

แต่มนุษย์กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นเท่านั้นเอง

 

การเห็นผี!

 

การเห็นผีไม่เชื่อเรื่องง่าย

วัดกันง่ายๆ หากใครที่มีอายุจนถึงป่านนี้

แล้วยังไม่เคยเจอผี

จำไว้เลยว่า โอกาสเจอของคุณแทบเป็นศูนย์แล้ว

เสียใจด้วย

การเจอผีมักเกี่ยวข้องกับบุญกรรม

ความสัมพันธ์ของผีกับบุคคลนั้นๆ

 

นอกเสียจาก ผู้ปฏิบัติธรรมถึงขั้น

จึงจะได้เห็นผีทุกสรรพสิ่ง

แต่อารมณ์กิเลสความกลัวหมดสิ้นไปแล้ว

เห็นก็เหมือนเห็นคนปกติ

สงสารเป็นปกติ

สังเวชเป็นปกติ

 

—————————————————

 ประสบการณ์เห็นผี

 

นักวิทยาศาสตร์มักจะยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้ทดลองและเห็นจริง

 

ผมไม่ได้ทดลองบ้าอะไรเลย

แต่ดันเสือกเห็นจริง

 

เป็นความซวยเฉพาะตัวที่อยากให้ทุกคนเลียนแบบ

แต่ก็เป็นพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า ทำไมผมจึงเชื่อเรื่องผี

 

 

ตอนผมอายุ 9 ขวบ

หลังจากกลับงานศพพ่อที่กรุงเทพ

ครอบครัวผมก็เดินทางกลับจากจันทบุรี

เมื่อถึงบ้าน ผมเห็นพ่อมองผมจากทางหน้าต่าง

สายตาพ่อยังเหมือนกับคนมีชีวิต

ที่ยังรักผมอยู่เต็มหัวใจ

นั่นคือการเห็นผีครั้งแรกของผม

 

——————————————————

 

อายุ 12 ขวบ

ตอนเช้า ขณะนั่งดูการ์ตูนช่อง 9 เรื่องดราก้อนบอล

หางตาข้างซ้ายผมเห็นคนชะโงกหน้ามาจากห้องพี่สาว

เป็นชายแก่อายุประมาณ 80 ผมสีขาวโพลน

ผมหันหน้าไปมอง ชายแก่หดศรีษะเข้าในห้อง

ผมสัมผัสได้ถึงความยาวของคอที่ผิดปกติ

ผมวิ่งเข้าไปในห้องนั้นซึ่งห่างจากผมแค่ 3 เมตร

ไม่มีใคร!

 

—————————————————-

อายุ 16 ปี

ผมอธิษฐานลองดีในวัดที่ปฏิบัติธรรม

ว่าถ้าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าวิญญาณมีจริง

ให้ผมได้เห็นผีในศาลานี้เถิด

กล่าวจบผมก็นั่งสมาธิอย่างจดๆ จ้องๆ

จาก 1 ทุ่ม จนถึง 5 ทุ่มก็ไม่ปรากฏอะไร

จนผมล้มตัวลงนอน

ผมถึงเห็นคนนั่งก้มหน้าจากปลายเท้าผมไปราวๆ 100 เมตร

ประมาณ 10 กว่าคน

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าผมจะล้มตัวนอนไม่มีคนนั่งอยู่ตรงนั้น

ผมช็อคจนจะบ้า

ก็ได้ยินเสียงหลวงพ่อกระแอม 1 ครั้ง

จึงเหมือนกับสะดุ้งตื่น

เหมือนกับเราสะดุ้งตื่น

โดยที่เรารู้ว่า เรายังไม่ได้นอน….

ผมไม่กล้ามองไปข้างหลัง

แต่ก็รู้ว่าตรงนั้น..มันไม่มีคน

 

——————————————————

 

อายุ 18 ปี

หลังกลับมาจากทำสมาธิที่วัด

เวลาสี่ทุ่มผมเข้านอนปกติ

เตียงผมสั่น แต่ผมลืมตาไม่ขึ้น

ผมรู้ว่ามีมือคนยื่นมาจากใต้เตียงเพื่อดึงขาผม

ผมกลัวแต่ปากก็พูดออกมาว่า

"พรุ่งนี้ผมจะทำบุญให้"

เตียงหยุดสั่น มือหายไป

ผมลืมตาแล้ววิ่งไปขอนอนกับแม่

 

———————————————————-

 

อายุ 23

ตีหนึ่ง ผมปิดร้านเกมส์เพราะลูกค้าหมดร้านแล้ว

หลังจากเลื่อนประตูบานพับและ Lock เรียบร้อยเสร็จ

ผมหันหน้ากลับมา

พบว่ามีลูกค้าเหลืออยู่ 1 คน

นั่งหันหลังอยู่มุมห้อง

ผมเก็บตะขอเกี่ยวเข้าที่ แล้วเดินไปที่มุมห้องนั้น

ไม่มีคน..

 

————————————————————

อายุ 25

ผมนั่งรถไปยังสถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ

ตามคำที่เพื่อนแนะนำให้ยืนอยู่ที่ป้าย

ให้คีบบุหรี่แต่ไม่ได้จุด

ผมทำตามที่เพื่อนบอกทุกอย่าง

จนผีเดินออกมาคุยเรื่องราคา

 

พอ!

 

หลังจาก 23 ขวบ ก็ยังไม่ได้เจอผีเลยตั้งแต่นั้น

แต่ก็ดีแล้ว ผมเองก็ไม่อยากเจอสักเท่าไหร่

พออายุ 25 เริ่มจังไร บุญก็เลยหมด

ผีก็เลยงดการขอส่วนบุญชั่วคราว

 

 

อยากให้ทุกคนเชื่อเรื่องผี

และสงสารผีให้มากๆ

 

 

 

 อย่างน้อยเราก็สะดุ้งน้อยลงหน่อย

เวลามีคนบอกว่า

 

 

 

 

มีคนนั่งอยู่ข้างหลัง!!!!!!!!!